10 อันดับ ปลาใกล้สูญพันธุ์ 3T

10 อันดับ ปลาใกล้สูญพันธุ์

10.ปลาทูน่าครีบน้ำเงิน (Bluefin Tuna) สัญลักษณ์ของปลาใกล้สูญพันธุ์



   ปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่เป็นสัญลักษณ์ของปลาใกล้สูญพันธุ์นี้อาศัยอยู่ในพื้นที่ส่วนมากของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ มันเป็นหนึ่งในปลาที่เร็วที่สุดในโลก ซึ่งสามารถโตได้กว่า 3 เมตร และหนักกว่า 635 กก. ปลาทูน่าครีบน้ำเงินนั้นเป็นนักสู้ไม่ยอมแพ้ และเพราะเหตุผลนี้เอง มันถึงเป็นที่นิยมของนักจับปลาสมัครเล่นและมีราคาถึง 3 ล้านบาท ซึ่งมันก็เป็นรางวัลล้ำค่าสำหรับชาวประมงอีกด้วย ปลาทูน่าครีบน้ำเงินนั้นถูกล่าเกินปริมาณอย่างหนัก และผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า ถ้าปราศจากการเข้าแทรกแทรงโดยทันทีแล้ว เจ้าปลาโตช้าและเข้าสู้วัยผสมพันธุ์ช้าสปีชีส์นี้จะสูญพันธุ์อย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม การวางข้อบังคับนั้นก็เป็นอะไรที่จัดการยากเพราะปลาทูน่าครีบน้ำเงินนั้นอพยพระยะทางยาวเป็นพันๆ กิโลเมตรข้ามหาสมุทร และความพยายามที่จะอนุรักษ์มันไว้ถึงขณะนี่ก็ล้มเหลวมาโดยตลอด ปลาทูน่าครีบน้ำเงินถูกเลือกให้เป็นปลา ใกล้สูญพันธุ์


9.ปลากระเบนมัสทีส (Maltese Ray) พบได้ที่ช่องแคบซิซิลีเท่านั้น



   ในอดีต ปลากระเบนมัลทีสนั้นสามารถพบได้ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแถบชายฝั่งของอิตาลี,อัลจิเรีย,มัลตาและตูนีเซีย แต่ในปัจจุบันมันสามารถพบได้ในที่ๆ มีการจับปลาอย่างมากที่ช่องแคบซิซิลี ซึ่งเป็นช่องแคบที่กว้าง 145 กม.ตั้งอยู่ระหว่างอีตาลีและตูนีเซียเท่านั้นถึงแม้ว่าปลากระเบนมัลทีสจะไม่เป็นที่รู้จัก มันก็มีลักษณะที่เหมือนปลากระเบนทั่วไป คือ เติบโตและเข้าสู้วัยผสมพันธุ์ช้า และออกลูกจำนวนน้อย ปลากระเบนมัลสิสอาจจะไม่ใช่เป้าหมายของการจับปลาแถบนั้น แต่มันมักจะโดนจับติดไปด้วยจากการจับปลาสปีชีส์อื่น เมื่อเจ้าปลาที่ไม่มีใครต้องการนี้ถูกจับ มันก็จะโดน โยนลงกลับทะเลในสภาพที่ตายแล้วหรือกำลังตาย การลดจำนวนลงปลาสปีชีส์นี้และการตอบสนองที่ช้าของรัฐบาลทำให้ปลากระเบนมัลทีสได้รับเป็น ปลาใกล้สูญพันธุ์


8.ปลากรุ๊ปเปอร์ยักษ์ (Goliath Grouper) โดนห้ามไม่ให้จับ



   ปลากรุ๊ปเปอร์ทุกสปีชีส์นั้นใกล้สูญพันธุ์เหมือนกันหมด แต่ปลากรุ๊ปเปอร์ยักษ์เป็นสปีชีส์ที่อยู่ในอันตรายด้วยเหตุผลต่างอกกไป รู้จักกันในอีกชื่อว่า ปลายิว ปลากรุ๊ปเปอร์ยักษ์นั้นอาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เขตร้อนของมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันอกก (จากบาจา,แคลิฟอร์เนียไปถึงเปรู) และ ในมหาสมุทรแอตแลนติก (จากนอร์ทแคโรไลน่าไปถึงบราซิล) ปลากรุ๊ปเปอร์ยักษ์มีขนาดยักษ์ตามชื่อ ซึ่งมันสามารถยาวได้ถึง 2.1 เมตร และมีอายุขัยได้ถึง 40 ปี การจับปลากรุ๊ปเปอร์ยักษ์เกินปริมาณนี้สร้างปัญหาให้มัน 2 ปัญหา คือ มันแพร่พันธุ์ได้ในช่วงสั้นๆ ซึ่งส่งผลให้จำนวนลูกปลามีน้อยเมื่อเทียบกับสปีชีส์อื่น และ ลูกปลากรุ๊ปเปอร์ยักษ์มักจะติดมากับการลากอวนจับปลา ส่วนที่เหลือนั้นก็โดนจับเรือเล็ก เนื่องจากปัญหาที่ปลากรุ๊ปเปอร์ยักษ์กำลังเผชิญ สหรัฐอเมริกาได้ช่วยอนุุรักษ์ไว้โดยการแบนการจักพวกนั้น


7.ปลาไหลยุโรป (European Eel) วงจรชีวิตแปลกประหลาดโดนทำลายจากการจับปลา



   พบได้หลักๆ ในแอตแลนติกเหนือและทะเลบัลติกกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ปลาไหลยุโรปนั้นพบกับปัญหาเฉพาะตัวเพราะมันมีวงจรชีวิตที่น่าสนใจ ซึ่งเริ่มต้นด้วยการเกิดมาในทะเลและว่ายน้ำเข้ามามีชีวิตเรือยๆ ในแม่น้ำที่ห่างจากทะเลเป็นพันๆ กิโลเมตรจนมันมีความยาวถึง 4.5 เมตร เมื่อเวลาที่ปลาไหลยุโรปเข้าสู่วัยผสมพันธุ์ ซึ่งก็คืออายุ 6-30 ปี มันก็จะกลับลงไปในทะเลเพื่อผสมพันธุ์และออกไข่ ถ้าเส้นทางการผสมพันธุ์ ออกไข่ แล้วก็ตาย เมื่อได้ฟังอย่างนี้แล้ว คุณก็คงนึกว่า แล้วมันไม่ดีตรงไหน สิ่งที่ไม่ดีก็คือ ถ้าเส้นทางผสมพันธุ์ของปลาไหลยุโรปถูกขวางแล้ว ตัวที่ถูกจับได้ในทะเลนั้นก็จะเป็นแต่ตัวลูก ซึ่งการจับปลาเกินปริมาณนี้ส่งผลให้ประชากรของมันลดลงอย่างมหาศาลและทำให้มันได้รับสถานะเป็น ปลาใกล้สูญพันธุ์


6.ปลาหินโบแค๊กซิโอ (Bocaccio Rockfish) ปลาที่ใกล้สูญพันธุ์ที่สุดในแถบตะวันตก



   ในหมู่ปลาหินจำนวน 70 สปีชีส์ที่อาศัยอยู่ในชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา ปลาหินโบแค็กซิโอนั้นเป็นสปีชีส์ที่ใกล้สูญพันธุ์ที่สุดถึงแม้ว่ามันจะเข้าสู่วัยผสมพันธุ์เร็วกว่าปลาที่โดนจับมากเกินปริมาณหลายสปีชีส์ ตัวอ่อนของมันก็มีโอกาสอดตายต่ำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงของกาอาศและกระแสน้ำทะเลตั้งแต่ปี 1970s(2513+) นั้นทำให้ตัวอ่อนของปลาหินโบแค็กซิโอโตมาเป็นลูกปลาทุกๆ 20 ปี เท่านั้น เพื่อการอนุรักษ์ปลาหินแค็กซิโอไว้ สหรัฐอเมริกาได้ปิดการจับปลาในชายฝั่งตะวันตก แต่ถึงแม้ว่าการจับปลาในที่ๆ ปลาหินแค็กซิโออาศัยอยู่จะหมดไปแล้ว นักวิทยาศาสตร์ก็เชื่อได้ว่ามันต้องใช้เวลาถึง 100 ปี ในการฟื้นฟูประชากรเพราะระยะเวลาแสนยาวนานในการฟื้นตัวนี้ ปลาหินแค็กซิโอจังได้รับเป็น ปลา ใกล้สูญพันธุ์


5.ปลาสเก็ตฤดูหนาว (Winter Skate) อาหารปลาที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างมาก



   ปลาสเก็ตฤดูหนาวเป็นปลาน่าทึ่งที่รู้จักไล่และช็อตผู้ล่าไปด้วยกระแสไฟฟ้า ส่วนมากอาศัยอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จากอ่าวเซ้นท์ ลอว์เรนซ์ในประเทศแคนาดาไปถึงรัฐนอร์ท แคโรไลน่าของสหรัฐอเมริกา ปลาสเก็ตฤดูหนาวถูกเรียกว่า ปลาขยะ ในอดีต แต่ในปัจจุบัน มันถูกจับเพื่อนำมาแปรรูปเป็นอาหารปลาและเหยื่อตกล๊อบส์เตอร์ หรือแม้กระทั่งอาหารของคน การลาอวนจับปลาสเก็ตฤดูหนาวได้ทำให้เกิดการจับปลาโดยความผิดพลาดเพราะตัวเล็กและมีจำนวนมากกว่า ซึ่งผลที่ตามมาก็คือ การลดจำนวนลงอย่างฮวบฮาบของปลาที่เข้าสู่วัยผสมพันธุ์ช้าและออกลูกน้อย ผู้เชี่ยวชาญได้โทษการจับลูกปลาสำหรับการลดจำนวนถึง 90% ของประชากรตัวเต็มวัย

4.Orange roughy ซวยเพราะอายุนานถึง 149 ปี



   รู้จักกันในนาม หัวเมือก สามารถพบได้ในหลายพื้นที่ ทั้งชายฝั่งนิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย นามิเบียและมหาสมุทรแอตแลนติกตะวันออกเฉียงเหนือ มันเป็นปลาที่มีอายุขัยถึง 1479 ปี และเข้าสู้วัยผสมพันธุ์เมื่ออายุ 20-30 ปี ซึ่งการเติบโตช้านี้ทำให้มันอ่อนแอต่อการจับปลาเกินปริมาณอย่างมาก และการจับปลาเกินปริมาณนั้นก็ไม่ได้ช่วยให้มันรอดพ้นจากการสูญพันธุ์เลยเมื่่อชาวประมงมักจะจับมันในฤดผสมพันธุ์ ซึ่งผลที่ตามมาคือจำนวนลดลงอย่างมากในเวลา 25 ปีของการจับ


3.ปลาแดงอเคเดียน (Acadian Redfish) การผสมพันธุ์ลดลงจากการลากอวน



   เจ้าปลาสปีชีส์ของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือนี้สามารถโตได้ถึง 50.8 ซม. และมีอายุขัยถึง 50 ปี ปลาแดงอเคเดียนนั้นก้เหมือนปลาที่โดนจับเกินปริมาณส่วนใหญ่ที่เติบโตและเข้าสู่วัยผสมพันธุ์ช้า ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 8-9 ปี การจับปลาแดงอเคเดียนอย่างหนักในทศวรรษที่ผ่านมานั้นทำให้มันมีจำนวนนิดเดียวนับตั้งแต่ที่มันเริ่มถูกจับในปี 1930s (2473+) และที่แย่กว่านั้นก็คือ ปลาแดงอเคเดียนยังโดนจับจากนักจับปลาผิดกฏหมายอีกอ้วย


2.ปลาสเตอเจี้ยนขาว (Beluga Sturgeon) โดนล่าเพราะไข่ล้ำค่า



   ปลาสเตอเจี้ยนขาวนั้นโด่งดังในเรื่องของเนื้อและไข่ของมันที่เป็นที่รู้จักกันในชื่อ คาเวียร์ของแท้ เจ้าปลาโบราณตัวนี้มีถิ่นกำเนิดในทะเลแคสเปี้ยน มันสามารถโตได้ถึง 4.6 เมตร หนักกว่า 1 ตัน และมีอายุขัยถึง 100 ปี เพราะความนิยมในคาเวียร์ ปลาสเตอเจี้ยนขาวนั้นได้ถูกจับปลากฃเกินปริมาณอย่างหนักด้วยแห ซึ่งเป็นหัญหาสำหรับมันมากเพราะเจ้าปลาสปีชีส์จะไม่เข้าสู้วัยผสมพันธุ์จนกว่าจะอายุ 20-25 ปี นอกการจับปลาเกินปริมาณแล้ว ปลาสเตอเจี้ยนขาวยังถูกคุกคามจากถิ่นที่อยู่ที่ลดลง ซึ่งพื้นที่ผสมพันธุ์ตั้งแต่โบราณของมันนั้นได้หายไปถึง 90% ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา ปลาสเตอเจี้ยนขาวนั้นได้รับสถานะ ใกล้สูญพันธุ์

1.ปลาฮาลิบัตแอตแลนติก (Atlantic Halibut) เหยื่อที่เป็นของแถม



   พบได้ในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือ ปลาฮาลิบัตแอตแลนติกนั้นคือปลาตัวแบนสปีชีส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มันมีอายุขัยถึง 50 ปี ยาวได้ถึง 2.7 เมตร และหนักถึง 45 กก. ปลาฮาลิบัตแอตแลนติกนั้นเข้าสู่วัยผสมพันธุ์เมื่ออายุ 10-14 ปี ซึ่งเป็นเวลาที่ช้ามากและทำให้มันอ่อนแอต่อการจับปลาเกินปริมาณ ปลาฮาลิบัตแอตแลนติกนั้นโดนจับโดยทั้งเบ็ดและเป็นของแถมจากการลากแห่ใต้พื้นสมุทร IUCN นั้นให้สถานะ ใกล้สูญพันธุ์ แก่ปลาฮาลิบัตแอตแลนติกและคาดหวังของการเพิ่มจำนวนในอนาคตของมันนั้นก็ต่ำเหลือเกิน ซึ่งทำให้ประเทศสหรัฐอเมริกาแบนการจับพวกมัน

ที่มา : http://www.toptenthailand.com/topten/detail/20140213174203936

10 อันดับ ภัยพิบัติที่ร้ายแรงที่สุดในโลก 3T

10 สิบอันดับ ภัยพิบัติที่ร้ายแรงที่สุดในโลก 

10.อุกกาบาตตกในประเทศรัสเซีย



   บอกเลยว่าสร้างความแตกตื่นให้กับคนรัสเซียเป็นอย่างมาก เมื่ออุกกาบาตหนักกว่า 7 พันตันได้โคจรตกลงมาสู่ชั้นบรรยากาศโลก ทำให้เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นจนกระจกบ้านเรือนประชาชนแตก และมีผู้บาดเจ็บ 102 คน

9.คลื่นความร้อนปกคลุมอินเดีย



   ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สภาพอากาศที่ร้อนจัดทะลุ 45 องศาเซลเซียส ได้ทำให้ประชาชนอินเดียเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก โดยจากสถิติที่รายงานครั้งสุดท้ายคือ 524 ศพ

8.แผ่นดินไหวที่เสฉวน ประเทศจีน



   เกิดแผ่นดินไหวความรุนแรง 6.6 แมกนิจูดขึ้นในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ก่อนเกิดอาฟเตอร์ช็อกอีกกว่า 1,400 ครั้ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 78 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกหลายพันคน

7.ทอร์นาโดถล่มสหรัฐ



   ภัยพิบัติครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายมหาศาลในรัฐโอคลาโฮมา มีทอร์นาโดหลายลูกที่พัดเข้าถล่มพื้นที่ประสบภัย มีความเร็วเฉลี่ยระดับ 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้มีบ้านเรือนถูกทำลายพังราบราว 2,400 หลัง

6.น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่จีน


 
   หลังจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ได้ทำให้น้ำท่วมและดินถล่มกินบริเวณกว้างหลายมณฑล โดยทางการจีนถึงกับเปิดเผยว่า น้ำท่วมครั้งนี้ถือเป็นน้ำท่วมครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี อีกด้วย

5.น้ำท่วมเม็กซิโก



   เฮอริเคนอินกริดและพายุโซนร้อนมานูเอล กระหน่ำชายฝั่งทั้งสองด้สนของเม็กซิโกส่งผลให้ ทำให้เกิดฝนตกต่อเนื่องแบบมาราธอน 3 วัน ตามมาด้วยน้ำท่วมและดินถล่มครั้งใหญ่

4.แผ่นดินไหวฟิลิปปินส์



   ก่อนที่พายุซุปเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนถล่มฟิลิปปินส์ เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่จุดท่องเที่ยวสำคัญของประเทศฟิลิปปินส์ที่คร่าชีวิตคนไปนับร้อย

3.แผ่นดินไหวที่ปากีสถาน



   แผ่นดินไหว 7.8 แมกนิจูด ได้เขย่าพื้นที่ทางตะวันตกของปากีสถาน ทำบ้านเรือนพังราบ ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 208 ศพ แผ่นดินไหวครั้งนี้ก็ได้ทำให้เกาะขนาดเล็กแห่งใหม่ผุดขึ้นกลางทะเล สร้างความฮือฮาให้กับชาวเมืองเป็นอย่างมาก

2.น้ำท่วมหนักในอินเดีย



   อีกหนึ่งภัยพิบัติที่รุนแรงที่สุดในโลก หลังจากมรสุมเข้าปกคลุมหลายพื้นที่ในอินเดีย ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม โดยเฉพาะในรัฐอุตตราขัณฑ์ ส่งผลให้มียอดผู้เสียชีวิตอย่างไม่เป็นทางการประมาณ 1,000 คน ยังไม่รวมผู้สูญหาย ซึ่งทางการเปิดเผยว่า น้ำท่วมดินถล่มครั้งนี้ นับว่าเป็นน้ำท่วมฤดูมรสุมที่หนักที่สุดในรอบ 80 ปีของอินเดียเลยทีเดียว

1.ซุปเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน



   ภัยพิบัติครั้งนี้เกิดขึ้นที่ฟิลิปปินส์ นับว่าเป็นภัยพิบัติที่รุนแรงที่สุดในโลก โดยพายุไห่เยี่ยนลูกนี้ได้พัดเข้าถล่มฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ด้วยความเร็วลม 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัยเกือบ 2 ล้านคน และเสียชีวิตราว 4,500 คน ซึ่งนอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินแล้ว หลังเกิดเหตุผู้ประสบภัยยังต้องต่อสู้กับภาวะขาดแคลนน้ำและอาหารด้วย

ที่มา : http://www.toptenthailand.com/topten/detail/20140210121155405

10 อันดับ เรื่องเด็ดบนดาวอังคาร 3T

10 อันดับ เรื่องเด็ดบนดาวอังคาร

10.พายุฝุ่นบนดาวอังคาร



    พายุฝุ่นที่เกิดบนดาวอังคารถือว่าเป็นพายุฝุ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะ ครอบคลุมดาวเกือบทั้งดวง ขณะที่ฝุ่นถูกลมหอมขึ้นไปนั้นมันก็ดูดซับเอาพลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์ไปด้วย ทำให้บรรยากาศโดยรอบละอองฝุ่นมีอุณหภูมิสูงตามไปด้วย ทำให้เกิดการเคลื่อนตัวของอากาศจากบริเวณที่มีอากาศร้อน (ความกดอากาศต่ำ) ไปหาบริเวณที่มีอากาศเย็นกว่า (ความกดอากาศสูง) ยิ่งอุณหภูมิแตกต่างกันมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ลมมีความรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น

9.ความสูงต่ำของภูมิประเทศบนดาวอังคาร



    ดาวอังคารเป็นดาวที่มีภูเขาที่สูงที่สุดในระบบสุริยะ และยังมีมีหุบเขาที่ลึกและยาวที่สุดในระบบสุริยะอีกด้วย ภูเขาที่สูงที่สุดบนดาวอังคาร คือ ภูเขาไฟโอลิมปัส (Olympus Mons) มีความสูง 27 กิโลเมตร คิดเป็น 3 เท่าของความสูงของยอดเขาเอเวอร์เรส ส่วนหุบเขาที่ลึกที่สุด คือ มาริเนริส (Marineris) ลึก 8-10 กิโลเมตร และยาวประมาณ 4000 กิโลเมตร

8.ดาวแดง


 
ดาวอังคารบางทีก็เรียกกันว่าดาวแดงเพราะผิวพื้นเป็นหินสีแดง หินบนดาวอังคารที่มีสีแดงก็เพราะเกิดสนิมท้องฟ้าของดาวดังคารเป็นสีชมพูเพราะฝุ่นจากหินแดงที่ว่านี้ นั้นเอง

7.พื้นผิวของดาวอังคาร



    ผิวของดาวอังคารเหมือนกับทะเลหินแดง มีก้องหินใหญ่และหลุมลึก ภูเขาสูง หุบ เหว และเนินมากมาย

6.เวลาบนดาวอังคาร



    ดาวอังคารยังเป็นดาวเคราะห์ที่มีโอกาสเข้ามาใกล้โลกเกือบพอๆ กับดาวศุกร์ โดยระยะใกล้ที่สุดจะอยู่ภายใน 40 ล้านกิโลเมตร เมื่อใช้กล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่ที่มีกำลังแยกภาพสูงสุด ส่องดาวอังคารขณะอยู่ใกล้โลกที่สุด จะเห็นรายละเอียดได้ถึง 150 กิโลเมตร ซึ่งเทียบได้กับการเห็นริ้วรอยบนดวงจันทร์ด้วยตาเปล่า ที่กำลังแยกภาพขนาดนี้จะไม่เห็นรายละเอียดของพื้นผิว เช่นไม่เห็นภูเขาหรือหุบเหว หรือหลุมบ่อของดาวอังคาร แต่จะเห็นโครงสร้างใหญ่ๆ เช่นขั้วน้ำแข็งสีขาว หรือริ้วรอยสีคล้ำซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลของดาวอังคาร

5.เป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้โลก


 
    ดาวอังคารยังเป็นดาวเคราะห์ที่มีโอกาสเข้ามาใกล้โลกเกือบพอๆ กับดาวศุกร์ โดยระยะใกล้ที่สุดจะอยู่ภายใน 40 ล้านกิโลเมตร เมื่อใช้กล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่ที่มีกำลังแยกภาพสูงสุด ส่องดาวอังคารขณะอยู่ใกล้โลกที่สุด จะเห็นรายละเอียดได้ถึง 150 กิโลเมตร ซึ่งเทียบได้กับการเห็นริ้วรอยบนดวงจันทร์ด้วยตาเปล่า ที่กำลังแยกภาพขนาดนี้จะไม่เห็นรายละเอียดของพื้นผิว เช่นไม่เห็นภูเขาหรือหุบเหว หรือหลุมบ่อของดาวอังคาร แต่จะเห็นโครงสร้างใหญ่ๆ เช่นขั้วน้ำแข็งสีขาว หรือริ้วรอยสีคล้ำซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลของดาวอังคาร

4.ความเชื่อว่ามีมนุษย์



    สาเหตุที่มีผู้เชื่อว่ามีมนุษย์อาศัยอยู่บนดาวอังคาร เนื่องจากนักดาราศาสตร์ชาวอิตาลีชื่อ จิโอวานนี ชิอาพาเรลลี รายงานเมื่อ พ.ศ. 2420 ว่าเขาได้ใช้กล้องโทรทรรศน์ส่งพบร่องที่เป็นเส้นตรงจำนวนมากบนพื้นผิว และเรียกเป็นภาษาอิตาลีว่า คานาลี (canale) ซึ่งมีความหมายตรงกับภาษาอังกฤษว่า channel (ช่องหรือทาง) แต่คนอังกฤษเอาไปแปลว่า canal (คลอง) อันเป็นสิ่งซึ่งต้องขุดสร้างขึ้น ผู้ขุดสร้างคลองบนดาวอังคารจึงต้องเป็นมนุษย์ดาวอังคาร เพื่อนำน้ำจากขั้วมายังบริเวณศูนย์สูตรสำหรับการเพาะปลูก จุดนี้เองที่นำไปสู่การเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ ที่ทำให้เชื่อว่ามีมนุษย์ดาวอังคาร

3.พบร่องรอยทะเลสาบบนดาวอังคาร


 
     นักวิทยาศาสตร์ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือนาซา เปิดเผยข้อมูลใหม่เกี่ยวกับการมีอยู่ของแหล่งน้ำจืดบนดาวอังคาร โดยล่าสุด นักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า รถหุ่นยนต์"คิวริออซิตี" ที่นาซาส่งขึ้นไปสำรวจดาวอังคาร พบหลักฐานชี้ชัดว่า บริเวณ "เกลเครเตอร์" ซึ่ง "คิวริออซิตี" ร่อนลงจอดตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2555 เคยเป็นทะเลสาบน้ำจืดโบราณที่มีขนาดความกว้าง 5 กิโลเมตร ยาว 50 กิโลเมตร และขนาดของมันอาจเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละช่วงเวลา

2.ยานอวกาศลำแรกที่เยือนดาวอังคาร


 
    ยานอวกาศลำแรกที่ประสบความสำเร็จในการผ่านใกล้ดาวอังคาร คือ ยานมารีเนอร์ 4 ของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2508 ภาพที่ถ่ายทอดกลับมาจำนวน 22 ภาพแสดงให้เห็นว่าพื้นผิวดาวอังคารมีหลุมและบ่อมากมาย

1.ดาวอังคาร



    ดาวอังคารเป็นดาวเคราะห์หิน (terrestrial planet) มีชั้นบรรยากาศเบาบาง พื้นผิวมีลักษณะคล้ายคลึงทั้งหลุมอุกกาบาตบนดวงจันทร์ และภูเขาไฟ หุบเขา ทะเลทราย และบริเวณน้ำแข็งขั้วโลก บนโลก ดาวอังคารมีภูเขาที่สูงที่สุดในระบบสุริยะคือ ภูเขาไฟโอลิมปัส (Olympus Mons) และหุบเขาลึกที่มีชื่อว่า มาริเนริส (Marineris) ที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะ ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2008 มีบทความ 3 บทความตีพิมพ์ลงในนิตรสาร "Nature" เกี่ยวกับหลักฐานของหลุมอุกกาบาตที่ใหญ่มหึมา โดยมีความกว้าง 8,500 กิโลเมตร ยาว 10,600 กิโลเมตร นอกจากนั้นสิ่งที่ดาวอังคารมีและคล้ายคลึงกับโลกก็คือคาบการหมุนรอบตัวเองและฤดูกาล

ที่มา : http://www.toptenthailand.com/topten/detail/20140210154801870

10 อันดับหนังโฆษณาที่ฮือฮามากที่สุด 3T

10 อันดับหนังโฆษณาที่ฮือฮามากที่สุด

10.PANTENE เผยสิ่งดีๆ ที่ซ่อนอยู่ในตัวคุณ



อันดับที่ 10 ได้แก่ PANTENE ยาสระผม ของคนไทยที่มีมานานโดยเขาได้จัดทำ ออกมาในรูปแบบซีรี่ เกี่ยวกับหญิงสาวหูหนวกที่มีความฝันและกล้าที่จะทำตามความฝันตัวเอง ทั้งๆ ที่มันยาก แต่ผลสุดท้ายความพยายามและความตั้งใจก็สามารถทำให้เธอประสบความสำเร็จได้

9.Stra-cole x5




อันดับที่ 9 ได้แก่ Stra-cole x5 เป็นโฆษณาฟิมล์กรองแสงรุ่นพิเศษ ที่สามารถกรองรังสี UV ได้อย่าง 100 โดยตัวโฆษณาที่ทันสมัย เลยเป็นที่ฮือฮาเลยคะตอนที่ออกมาแรกๆ

8.TOA



อันดับที่ 8 ได้แก่ TOA โฆษณาสี ของ TOA นำเสนอสีต่างๆ ที่เขากับบรรยากาศ หรือกับสถานณ์ที่ได้อย่างเหมาะสมลงตัว โดยนำเสนอแบบ โทนสีห้องให้เขากับอารมณ์ของคนอยู่นั้นเองคะ

7.ไทยประกันชีวิต Forget me not



อันดับที่ 7 ได้แก่ ไทยประกันชีวิต ชายชราคนหนึ่งกับบ้านกับหญิงชราซึ่งเป็นภรรยาของเขา แต่เธอความจำเสื่อม จำอะไรไม่ค่อยได้ ทุกวันชายชราต้องเคยดูแลภรรยาของเขา ไม่ว่าจะเป็นซักผ้า เขาทำด้วยความเต็มใจ เพราะเขาเคยให้สัญญาต่อภรรยาว่า "ผมจะดูแลุคุณตลอดไป"


6.โพสท์ทูเดย์ การเปลี่ยนแปลงที่ดีที่สุด คือการกล้าเปลี่ยนตัวเอง เพื่อคนอื่นๆ



อันดับที่ 6 ได้แก่ โพสท์ทูเดย์ เขาจะออกแนว ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม โดยเฉพาะกับคนที่เรารัก การที่เราจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เราต้องเปลียนแปลงเพื่อคนอื่นด้วย นั้นก็คือผู้อ่านของเรานั้นเอง

5. 7-ELEVEN เขิดชูพระคุณครู ไม่มีวันเกษียณ



อันดับที่ 5 ได้แก่ 7-ELEVEN เป็นโฆษณาที่ครูคนหนึ่งได้ทุ่มเทชีวิตให้กับการสอนหนังสือ และดูแลเด็กที่ตัวเองสอน เป็นเรื่องราวของโรงเรียนเด็กช่างที่ทุกวันต้องมีเรื่องราว ชกต่อย แต่ครูก็ให้ความช่วยเหลือตลอด จนในที่สุดครูต้องมาเสียชีวิตเพราะการตีกันของสองโรงเรียน ทำให้รู้ว่าครูจะอยู่กับเราไม่ว่าท่านจะยังเป็นครูหรือเกษียณไปแล้วก็ตาม


4.กรุงเทพประกันชีวิต (Pilot)



อันดับที่ 4 ได้แก่ กรุงเทพประกันชีวิต โดยนำเสนอผ่านเรื่องราวในเสี้ยวชีวิตของผู้คน(Slices of Life)ที่ได้เตรียมความพร้อมในทุกๆด้านของชีวิตไว้แล้ว ทำให้มีความมั่นใจ และพร้อมที่จะทำในสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างเต็มความสามารถ หรือแม้กระทั่งการตัดสินใจก้าวไปข้างหน้าเพื่อทำตามความฝัน

เรื่องราวของนักบินคนหนึ่งที่เจอเข้ากับเหตุการณ์ฉุกเฉินขณะบิน “สติ” ที่เกิดจากความพร้อมคือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เขาเอาชนะความกดดันและผ่านพ้นวินาทีวิกฤตนั้นมาได้ด้วยดี


3.เนเจอร์กิฟ (ตำนานศักดิ์สิทธ์)



อันดับที่ 3 ได้แก่ หญิงสาวคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านกลางเขา เธอโดนคนดูถูกโดยเฉพาะผู้ชายในหมู่บ้านของเธอ เพราะเธอนั้นมีรูปร่างที่อ้วนจนโดนล้อว่าเป็นหมู วันหนึ่งชายชราคนหนึ่งบอกให้เธอตักน้ำใส่บ่อให้เต็มจะสามารถขอพรได้ ตั้งแต่วันนั้นมาเธอมีความมานะที่จะตักน้ำทุกๆ และทุกวัน จนสุดท้ายน้ำในบ่อก็เต็ม และพรที่เธอได้คือรูปร่างใหม่ของเธอที่มีรูปร่างผอม สวย จริงๆ ไม่ได้มาจากพร แต่มาจากความพยายามของเธอตางหาก


2.ทรูมูฟ เอช (การให้คือการสื่อสาร ที่ดีที่สุด)



อันดับที่ 2 ได้แก่ ทรูมูฟ เอช เป็นโฆษณาที่ได้รับการยอมรับว่าซึ่งจริงๆ ขนาดเอาไปฉายที่เมืองนอกทำเอาฝรั่งร้องไห้เลยละคะ โฆษณานี้จะสื่อถึงความกตัญญูที่เด็กคนหนึ่งมีต่อผู้มีพระคุณ ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าใด ความดีของเจ้าของร้านชำเล็กที่เคยช่วยเด็กชายเอาไว้ก็ไม่มีวันลบเลือน


1.Wacoal ผู้หญิงสวยที่สุดจากข้างใน



อันดับที่ 1 ได้แก่ Wacoal ชุดชั้นในสำหรับผู้หญิง เป็นโฆษณาใหม่ล่าสุด ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้ ที่มีผู้เขาชมผ่าน youtube 3 ล้าน เป็นโฆษณาเกี่ยวกับผู้หญิงสื่อความหมายว่าผู้หญิงสามารถสวยได้จากข้างใน และการดูแลตัวเองเป็นสิ่งที่จำเป็นไม่ว่าเราจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม รณรงค์ให้ผู้หญิงเราหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น

ที่มา :  http://www.toptenthailand.com/topten/detail/20140213155511667

10 เรืองน่ารู้ ของทวีปแอนตาร์กติกา 3T

10 เรืองน่ารู้ ของทวีปแอนตาร์กติกา

ทวีปแอนตาร์กติกา เป็นทวีปที่อยู่รอบขั้วโลกใต้ของโลก ซึ่งในช่วงฤดูหนาวนั้นจะมีอุณหภูมิระหว่าง -65 ถึง -70 องศาเซลเซียส ฤดูร้อนมีอุณหภูมิ -25 ถึง -45 องศาเซลเซียส แต่ในปัจจุบัน โลกกำลังเปลี่ยนไปและทำให้น้ำแข็งที่ปกคลุมอยู่นั้นเริ่มละลาย และจะเป็นยังไงต่อนั้น ติดตามกันได้ที่ 10 เรื่องน่ารู้ ของทวีปแอนตาร์กติกา

10.การคาดการณ์

    ทีมวิจัยจากศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์แห่งชาติฝรั่งเศส ได้พัฒนาแบบจำลองที่ทันสมัยขึ้น และตีพิมพ์ลงวารสารเนเจอร์ไคลเมตเชนจ์ ซึ่งแม้ว่ายังมีข้อจำกัดแต่พวกเขาระบุว่าคาดการณ์พฤติกรรมของธารน้ำแข็งไพน์ไอส์แลนด์ได้ดีที่สุด โดยทีมวิจัยพบว่า เส้นฐานของธารน้ำแข็ง หรือจุดที่ธารน้ำแข็งมาบรรจบกับหิ้งน้ำแข็งนั้นหดลงเหนือร่องลึกมหาสมุทร ซึ่งยิ่งเพิ่มปริมาณน้ำที่ซึมเข้าใต้ฐานและละลายธารน้ำแข็ง

    แบบจำลองดังกล่าวคาดการณ์ว่าในอีกสิบกว่าปีข้างหน้าธารน้ำแข็งละลายจนไม่อาจควบคุมได้เป็นระยะทาง 40 กิโลเมตร ซึ่งอาจจะทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 เซ็นติเมตร แต่การลดลงของธารน้ำแข็งอาจจะชะลอตัวเมื่อผ่านร่องลึกมหาสมุทร แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ยั่งยืนหรือเป็นสัญญาณในแง่บวก ซึ่ง กาเอล ดูรันด์ (Gael Durand) ผู้ร่วมวิจัยกล่าวว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราก็จะได้รับผลกระทบครั้งใหญ่แน่นอน และเราได้ผ่านจุดที่ไม่อาจถอยกลับได้แล้ว และโอกาสที่นำแข็งจะเพิ่มกลับมาเท่าเติมนั้นเป็นไปได้ยากแล้ว ซึ่งต้องอาศัยปัจจัยที่ยากจะเกิดขึ้น เช่น น้ำทะเลที่ต้องเย็นจัดกว่าช่วงที่น้ำแข็งละลาย เป็นต้น

9.ธารน้ำแข็งไฟน์ไอส์แลนด์

    ธารน้ำแข็งไฟน์ไอส์แลนด์ (Pine Island Glacier) ที่มีปริมาณน้ำแข็งคิดเป็น 20% ของพืดน้ำแข็งเวสต์แอนตาร์กติก (West Antarctic Ice Sheet) ทางฝั่งตะวันตกของทวีปแอนตาร์กติกา ซึ่งพืดน้ำแข็งดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ราว 2 ล้านตารางกิโลเมตร หรือคิดเป็น 10% ของน้ำแข็งในแอนตาร์กติกาทั้งหมด

    ไม่ใช่แค่ไหญ่มหึมาแต่ไลฟไซน์ระบุด้วยว่า ธารน้ำแข็งดังกล่าวยังมีความเสถียรน้อยที่สุดในแผ่นน้ำแข็งเวสต์แอนตาร์กติก โดยในช่วง 40 ปีที่ผ่านมาไฟน์ไอส์แลนด์มีอัตราการละลายเร่งสูงขึ้น สัมพันธ์กับกระแสน้ำทะเลที่อุ่นขึ้นและซึมเข้าใต้ฐานธารน้ำแข็ง และเร่งให้น้ำแข็งไหลลงสู่ทะเล

8.จุดที่สูงที่สุด

    จุดที่สูงที่สุดของทวีปคือยอดเขาวินสันแมสซิฟ มีความสูง 4,892 เมตร ตั้งอยู่ในเทือกเขาเอลส์เวิร์ท ถึงแม้ว่าแอนตาร์กติกาจะมีภูเขาไฟจำนวนมาก แต่มีเพียงแห่งเดียวที่ทราบแน่ชัดว่ายังคงคุกรุ่นอยู่คือภูเขาไฟเอเรบัสบนเกาะรอสส์ ในปีพ.ศ. 2547 นักสำรวจชาวอเมริกันและแคนาดาค้นพบภูเขาไฟใต้น้ำในคาบสมุทรแอนตาร์กติก โดยหลักฐานแสดงให้เห็นว่าภูเขาไฟนี้อาจยังคุกรุ่นอยู่เช่นกัน

7.สัตว์ที่อาศัยอยู่ 

    เพนกวิน แมวน้ำ และสาหร่าย บางส่วนของแอนตาร์กติกาที่กำลังร้อนขึ้นได้ทำให้ประชากรนกเพนกวิ นพันธุ์อเดลีและพันธุ์จักพรรดิ์จำนวนหนึ่งลดลงไปแล้ว ผลกระทบจากอุณหภูมิที่ร้อนขึ้น

6.ภูมิประเทศ 

 

    แอนตาร์กติกาเป็นทวีปที่อยู่ทางทิศใต้สุดของโลก โดยตั้งอยู่ในเขตแอนตาร์กติกเซอร์เคิลรอบขั้วโลกใต้ ล้อมโดยมหาสมุทรใต้ มีพื้นที่มากกว่า 14 ล้านตารางกิโลเมตร เป็นทวีปที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของโลก มีชายฝั่งยาว 17,968 กิโลเมตร

    ประมาณร้อยละ 98 ของแอนตาร์กติกาถูกปกคลุมด้วยแผ่นน้ำแข็งแอนตาร์กติกา แผ่นน้ำแข็งซึ่งหนาเฉลี่ย 1.6 กิโลเมตร ทวีปนี้มีน้ำแข็งถึงราวร้อยละ 90 ของน้ำแข็งทั้งหมดบนโลก ทำให้มีน้ำจืดประมาณร้อยละ 70 ของโลก ถ้าน้ำแข็งทั้งหมดละลายแล้ว ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นประมาณ 61 เมตร

5.ศูนย์วิจัยที่ทวีปแอนตาร์กติกา

    ดินแดนหลายส่วนในทวีปแอนตาร์กติกาถูกประเทศต่าง ๆ อ้างกรรมสิทธิ์ครอบครอง เช่น ประเทศอาร์เจนตินา ชิลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร เป็นต้น และในดินแดนเหล่านี้ก็จะมีศูนย์วิจัยของประเทศต่าง ๆ ตั้งอยู่ ทั้งทวีปแอนตาร์กติกามีศูนย์วิจัยของประเทศต่าง ๆ มากกว่า 20 ประเทศ จำนวน 60 แห่ง ในช่วงฤดูหนาวจะมีนักวิจัยทำงานอยู่ที่นี่ประมาณ 1,000 คน และจะเพิ่มเป็น 4,000 คนในฤดูร้อน ในศูนย์วิจัยแมกเมอร์โดที่อยู่ในเขตที่นิวซีแลนด์อ้างกรรมสิทธิ์เป็นศูนย์วิจัยและชุมชนที่ใหญ่ที่สุดในแอนตาร์กติกา สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากถึง 1,000 คน

4.การศึกษาวิจัยในขั้วโลกใต้

    เพื่อให้การศึกษาวิจัยด้านทางวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อมในทวีปแอนตาร์กติกา ประเทศต่าง ๆ จึงได้ตกลงร่วมมือสร้างศูนย์วิจัย โดยเริ่มเมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2010 ทำให้สามารถวัดความหนาและปริมาณของน้ำแข็งที่ปกคลุมทวีปแอนตาร์กติกาได้ และยังค้นพบว่าภายใต้น้ำแข็งที่หนากว่า 2,000 เมตรนั้น ยังมีแผ่นดินที่กว้างใหญ่อยู่ หลังจากนั้นการค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับทวีปแอนตาร์กติกาก็ได้รับความสนใจมากขึ้นทีเดียว และในปี ค.ศ. 2010 หลายประเทศได้ร่วมลงนามก่อตั้งสนธิสัญญาสำหรับทวีปแอนตาร์กติกาขึ้น โดยให้ทุกประเทศสามารถเข้าทำการศึกษาวิจัยได้ ยกเว้นแต่การทำกิจกรรมด้านทหาร

3.พื้นที่ของทวีป

    ทวีปแอนตาร์กติกามีพื้นที่กว้างใหญ่เป็นอันดับ 5 รองจากเอเชีย แอฟริกา อเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้ แต่มีประชากรน้อยที่สุดในโลก (ความจริงแล้วไม่มีประชากรอยู่ถาวร) นอกจากนี้ยังเป็นทวีปที่มีระดับความสูงเฉลี่ยสูงที่สุด ความชื้นเฉลี่ยและอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำที่สุดในโลก

2.ในตำนาน

    แม้ว่ามีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับการมีอยู่ของดินแดนใต้ ย้อนไปถึงยุคโบราณ แต่ส่วนใหญ่ยอมรับกันว่ามีการพบเห็นทวีปแอนตาร์กติกาครั้งแรกในปี พ.ศ. 2363 (ค.ศ. 1820) และลงเหยียบพื้นน้ำแข็งครั้งแรกในปีต่อมา อย่างไรก็ตาม แผนที่ของพลเรือเอกปีรี ไรส์ ที่เขียนขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2056 (ค.ศ. 1513) ได้บรรจุดินแดนนี้ไว้ โดยมีรูปร่างคล้ายคลึงกับชายฝั่งแอนตาร์กติกา

1.แอนตาร์กติกา

    เป็นทวีปที่อยู่รอบขั้วโลกใต้ของโลกล้อมรอบด้วยมหาสมุทร มีตำแหน่งอยู่ตรงข้ามกับเขตอาร์กติก ที่อยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือ ตัวทวีปถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนโดยเทือกเขาทรานส์แอนตาร์กติก ถือว่าเป็นดินแดนที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดในโลก โดยพื้นที่เกือบทั้งหมดปกคลุมด้วยน้ำแข็ง และยังนับเป็นดินแดนร้างแล้ง (desert) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยไม่มีมนุษย์ตั้งรกรากอยู่อาศัยถาวร

ที่มา : http://www.toptenthailand.com/topten/detail/20140211123058239